หลายๆ คนน่าจะรู้จัก ZTE ผ่านหูผ่านตากันไปบ้าง เป็นผู้ผลิตมือถือ OEM ให้กับเครือข่ายดังๆทั่วโลกรวมถึงในไทยด้วย นอกจากผลิตมือถือให้คนอื่นแล้ว ยังผลิตขายเองในชื่อ ZTE ในไทยเองก็เคยวางขายไปหลายรุ่น ล่าสุดทราบมาว่าทาง ZTE จะบุกตลาดไทยเต็มตัว ส่งมือถือรุ่นใหม่ๆ บางขายพร้อมกันหลายตัว หนึ่งในรุ่นที่ผมจะรีวิวให้ชมก็คือ ZTE Blade L2 ครับ
ZTE Blade L2 เป็นมือถือแอนดรอยด์ เจาะตลาดล่าง จุดเด่นคือความคุ้มค่า เน้นจอใหญ่ ประสิทธิภาพดี ใช้งานได้หลากหลาย ราคาค่าตัวอยู่ที่ 3,790 บาท เท่านั้น ถามว่าน่าสนใจไหม ? น่าสนใจครับ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ อีกทั้งในช่วงราคานี้หารุ่นที่จอใหญ่เท่าตัวนี้ยาก
ข้อมูลสเปก ZTE Blade L2
- หน้าจอ : TFT LCD, 5 นิ้ว, FWVGA (854 x 480 พิกเซล)
- ซีพียู : Mediatek MT6582M Quad-core 1.3 GHz
- แรม : 1GB
- ระบบปฏิบัติการ : Android 4.2 (Jelly Bean)
- กล้องหลัง : 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 3 แสนพิกเซล
- หน่วยความจำภายใน : 4 GB
- รองรับ 2 ซิม
- รองรับ 3G คลื่น 900/2100
- แบตเตอรี่ Li-Po 2000 mAh
ZTE Blade L2 วางขายด้วยราคาแค่ 3,790 บาท แต่ให้หน้าจอใหญ่ถึง 5 นิ้ว จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่งบไม่เยอะ แต่อยากได้มือถือที่จอใหญ่ ราคาไม่แพง ที่สำคัญหน้าจอยังมีความสวยงาม ให้สีสันที่เหมือนจริง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนำมาเล่นเกมส์ หรือดูหนัง
อีกทั้งรุ่นนี้ยังให้กล้องหน้าความละเอียด 3 แสนพิกเซลมาให้ แม้จะถูกความละเอียดน้อย แต่อย่าลืมว่าราคาสามพันปลายๆ มีไม่กี่รุ่นที่จะใส่กล้องหน้ามาให้ แม้สเปกดูดี แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นงานยากสำหรับ ZTE พอสมควร เพราะชื่อแบรนด์ที่คนไทยน้อยคนที่จะรู้จักแบรนด์นี้ (พอๆ กับ Huawei) แม้จะเป็นแบรนด์ระดับโลก แต่คนไทยน้อยคนที่จะรู้จัก ยิ่งตลาดล่างแล้ว แทบไม่รู้จักเลย (เอาใจช่วยครับ)
ตัวเครื่องทำด้วยพลาสติก งานประกอบอยู่ในระดับที่ดี แต่เวลากดยังมีเสียงนิดหน่อย จับกระชับมือ เวลามีเหงื่อจะลื่นอยู่บ้าง ความหนาของตัวเครื่องอยู่ที่ 9 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 166 กรัม ปุ่มควบคุมเป็นแบบสัมผัส 3 ปุ่ม ส่วนปุ่ม Power จะอยู่ขวามือ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะอยู่ซ้ายมือ
ฝาหลังสามารถแกะได้ กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED เรื่องคุณภาพก็พอสู้กับคู่แข่งในราคาระดับเดียวกันได้ ส่วนเคสและอุปกรณ์เสริมน่าจะหายาก อีกทั้งมีแบบให้เลือกน้อย อันนี้ต้องทำใจครับ ถ้าไม่ใช่รุ่นที่เด่นจริงๆ จะหาซื้อยากอยู๋แล้ว ไม่ใช่แค่ ZTE แบรนด์อื่นๆ ก็เป็น เข้าใจว่าบางส่วนจะมีแถมมาในกล่องครับ
ที่สำคัญตลาดล่างคู่แข่งเยอะมากครับทั้งอินเตอร์แบรนด์ และเฮ้าส์แบรนด์ แถมช่วงนี้มีแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดด้วย ยิ่งเป็นโจทย์ยากสำหรับ ZTE ครับ เพียงแค่ส่งมือถือสเปกดี มาทำราคาแข่งอาจจะไม่พอ
ZTE Blade L2 ที่ผมได้มาทดสอบและรีวิวให้ชม ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เครื่องขายจริง เพราะใส่ซิมไปแล้วไม่มีสัญญาณ เข้าใจว่าอาจจะเป็นเครื่องทดสอบภายใน รุ่นนี้รองรับ 2 ซิมครับ เป็นซิมขนาดธรรมดาทั้งคู่ รองรับ 3G คลื่น 900/2100 MHz ส่วนแบตรุ่นนี้ถอดไม่ได้นะครับ อย่าพยายามงัดออกเด็ดขาด ด้านหน่วยความจำให้มา 4 GB และเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32GB
ซอฟท์แวร์บน Blade L2
Blade L2 มาพร้อมกับ Android 4.4.2 Kitkat ตั้งแต่โรงงาน อินเตอร์เฟสเป็นแอนดรอยด์เพียวๆ ส่วนเรื่องอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่านี้คงเป็นไปได้ยากครับ คิดว่าน่าจะสุดแค่นี้ หมดโอกาสไปต่อ ด้วยสเปกกับราคาน่าจะไปต่อเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่านี้ลำบาก (แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับ ZTE จะพัฒนาให้ไหม)
ในแง่การใช้
- การตอบสนองยังทำได้ไม่ค่อนดี ทัชไม่ติดมือ มีอาการหน่วงให้เห็นอยู่ หลักๆ เป็นเรื่องการทัชที่ช้ากว่ามือพอสมควร
- หน้าจอแสดงผลค่อนข้างหยาบ ไม่ละเอียด และสีสันไม่สดใส
- ไม่ได้มีฟีเจอร์โ่ดเด่น หรือลูกเล่นที่น่าสนใจ ยิ่งเมื่อเทียบกับฝัง Zenfone ยอมรับด้อยกว่าเสียเปรียบหลายจุด
- การเปิดแอพ ปิดแอพยังตอบสนองได้ช้า
- กล้องหน่วงมาก โกกัสช้า บางครั้งก็โฟกัสไม่ติด เวลาแพลนกล้องไปมาภาพจะเบลอ
- เล่นเกมได้ แต่ไม่เหมาะกับเกมที่กราฟฟิกโหดๆ
- พื้นที่หน่วยความจำในตัวเครื่องเหลือให้ใช้งาน 1GB
Blade L2 ก็เหมือนมือถือ Android ทั่วไป สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่าน Play Store มีฟังก์ชัน Wi-Fi hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi และแชร์อินเตอร์ผ่านทาง USB (USB tethering)
รองรับการใช้งาน 2 ซิม รองรับ 3G แค่ 2 คลื่น คือ 900/2100 แม้จะเป็น 2 ซิม แต่ไม่สามารถใช้งาน Voice พร้อมกันได้ ถ้าซิม 1 ใช้โทรศัพท์อยู่ ซิม 2 จะเป็นฝากข้อความ
รอบรับการเชื่อมต่อแบบ MTP (Media Transfer Protocol) เวลาจะต่อมือถือกับเครื่องคอมเพื่อโอนย้ายไฟล์ ก็สามารถทำได้ง่าย อย่างไรก็ตามรุ่นนี้ยังมีฟักง์ชั่นเปิด USB Storage อยู่ และสามารถเลือกเป็น MTP ได้จากเมนูตั้งค่า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง ZTE Blade L2
แกลอรี่ ZTE Blade L2
