[รีวิว] Samsung Galaxy Mega 6.3: จอใหญ่ซะใจ 6.3 นิ้ว เต็มตา เต็มอารมณ์

Galaxy Mega 6.3 เป็นมือถือที่มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 6.3 นิ้ว เป็นมือถือที่หน้าจอใหญ่ที่สุดของซัมซุง ณ เวลานี้ หรืออาจะเรียกอีกอย่างว่า แฟบเล็ต* ในตระกูล Galaxy Mega จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น คือ Galaxy Mega 6.3 และ Galaxy Mega 5.8 หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว และ 5.8 นิ้วตามลำดับ เจาะกลุ่มที่ต้องการมือถือหน้าจอขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ใครที่ชอบการเล่นเกมส์ ดูหนังน่าจะชอบจอใหญ่ๆแบบตระกูลนี้

Galaxy Mega เป็นมือถือหน้าจอใหญ่คู่แรกของซัมซุง ที่เปิดตัวมาแบบแพคคู่ และใช้ขนาดหน้าจอแยกเป็นรุ่นย่อยอีกที แบบเดียวกับตระกูล Galaxy Tab ที่มี Galaxy Tab 7, Galaxy Tab 8 และ Galaxy Tab 10.1 นั่นหมายความว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็น Galaxy Mega รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหม่ก็เป็นได้

*แฟบเล็ต (Phablet) เป็นสิ่งที่เรียกอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่าง “มือถือ” (Phone) กับ “แท็บเล็ต” (Tablet) ซึ่งจะเป็นสมาร์ทโฟน ที่มีขนาดหน้าจอระหว่าง 5 ถึง 7 นิ้ว

ใครที่สงสัยหรืออยากรู้ว่าริงๆ แบบละเอียดสเปกของ Galaxy Mega 6.3 สามารถเข้าดูได้ที่แคตาล็อกมือถือของเราได้ครับ

Galaxy Mega 6.3 มีกี่รุ่น ?

อย่างที่บอกตอนแรก Galaxy Mega มีด้วยกัน 2 รุ่น และแต่ละรุ่นก็จะมีรุ่นย่อยลงไปอีก โดย Galaxy Mega 6.3 ก็จะมีด้วยกัน 3 โมเดล ได้แก่

Galaxy Mega 6.3 GT-I9200 คือ 3G (รุ่นที่ขายในไทย)
Galaxy Mega 6.3 GT-I9205 เป็นรุ่นที่รองรับ 4G LTE (ขายแค่ในบางประเทศ)
Galaxy Mega 6.3 SGH-i527 ตัวนี้เป็นโมเดลสำหรับขายกับเครือข่าย AT&T (แบบติดสัญญา)

แต่ละโมเดลก็จะแยกขายตามประเทศต่างๆ ซึ่งในไทยจะมีขายแค่โมเดลเดียว หรือถ้าโชคดีหน่อย เราจะได้เห็นโมเดล 4G LTE ขายในไทยก็ได้

ราคาของ Galaxy Mega 6.3

Galaxy Mega 6.3 วางขายในไทยเป็นที่เรียบร้อย ราคา 14,900 บาท รองรับ 3G ทุกเครือข่ายทั้ง คลื่น 850/900/2100 MHz ที่ความเร็วสูงสุด HSDPA+ 21Mbps

ทราบมาว่ามี เกมส์ HD ให้โหลดเล่นฟรี มูลค่ากว่า 1,000 บาท แต่ต้องโหลดจาก Samsung Apps โหลดผ่าน Play Store ไม่ได้ มีข้อแม้อีกนิดนึงคือ ต้องโหลดก่อน 30 ก.ย. 2556

ส่วน Galaxy Mega 5.8 วางขายอยู่ที่ราคา 12,500 บาท ต่างกันที่ขนาดหน้าจอ เลือกซื้อตามความชอบ และความเหมาะสมในการใช้งาน

จุดเด่นของ Galaxy Mega 6.3

Galaxy Mega 6.3 มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.3 นิ้ว อีกนิดเดียวก็จะใหญ่เท่า Galaxy Tab 7 แล้ว เป็นมือถือที่หน้าจอขนาดใหญ่มาก ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ย่อมมีทั้งดีและเสีย ดีคือได้หน้าจอที่กว้างขึ้น ดูหนังสะใจขึ้น เล่นเกมส์มันส์ขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น เพราะสามารถทำงานได้เหมือนแท็บเล็ตแล้ว (ในแง่การแสดงผล) แต่ก็ทำให้พกยากขึ้น ใส่กระเป๋ากางเกงบากขึ้น ยิ่งคนที่ชอบใส่การงเกงพวกขาเดฟต้องทำใจ ยัดใส่กระเป๋ากางเกงไม่ได้แน่นอน

ตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super Clear LCD ความละเอียด HD 720p ที่ 233 ppi หลายคนคงแอบเสียดายที่จอไม่ใช่ความละเอียด Full HD แน่นอนครับผมก็ด้วย ถ้าเป็นจอ Full HD จะทำให้อรรถรสในการเล่นเกมส์ หรือดูหนังมันเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

Galaxy Mega 6.3 กับ Galaxy Mega 5.8

จากที่ใช้งานมาแล้วทั้งคู่ Galaxy Mega 6.3 จะน่าใช้งานกว่าตัว Galaxy Mega 5.8 นิดหน่อย ด้วยวัสดุที่มีลวดลายทำให้ดูน่าใช้งาน และสเปกที่ดูจะแรงกว่านิดหน่อย หน้าจอและการแสดงผลทำได้ดีกว่า Galaxy Mega 5.8 เยอะ เพราะตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super Clear LCD ส่วน Mega 5.8 ใช้จอ TFT ธรรมดา

จากภาพด้านบนจะเห็นได้ชัดเจนว่าขอบหน้าจอของ Galaxy Mega 6.3 จะน้อยกว่าของ Galaxy Mega 5.8 อย่างชัดเจน ทั้งดานข้างและด้านบน ทำให้ขนาดของตัวเครื่องไม่ใหญ่แตกต่างกันมาก ที่สำคัญ Mega 6.3 บาง 8 มม. ซึ่งบางกว่า Mega 5.8 อยู่ 1 มม. กล้องหน้าความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซลทั้งคู่ และมี LED Notification มาให้

วัสดุด้านหลังเป็นพลาสติกเหมือนกัน แต่ Galaxy Mega 6.3 จะมีลวดลายสลักลงที่ฝาหลังด้วย ตัวกล้องความละเอียดเท่ากัน 8 ล้านพิกเซล และมีแฟลช LED มาให้ ลำโพงของตัวเครื่องจะอยู่คนละตำแหน่ง แกะฝาหลังได้ทั้งคู่ แต่ Galaxy Mega 5.8 จะไม่มี NFC ส่วน Mega 6.3 มี NFC มาให้

ซอฟท์แวร์

Galaxy Mega 6.3 มาพร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon 400 ซีพียู Dual-core 1.7 GHz Krait ทำงานบน Android 4.2.2 (Jelly Bean) หน่วยความจำภายใน (Storage) 8GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 64GB

มีฟีเจอร์ใหม่ตัวหนึ่งชื่อว่า Mega UX เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากจอแสดงผลขนาดใหญ่อย่างเต็มที่ คือจะได้มุมมองแบบแท็บเล็ตเมื่อใช้งานในแนวนอน ซึ่งรองรับแค่บางแอพพลิเคชั่นเท่านั้น ในตัวอย่างคือ S Planer

Galaxy Mega 6.3 ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Multi Windows ซึ่งทำให้สามารถแบ่งแยกการแสดงผลออกเป็นหลายหน้าต่าง โดยจะแสดงหน้าต่างในลักษณะ Dual View นั่นเอง แต่จะได้ประโยชน์มากขึ้นเมื่ออยู่ในหน้าจอใหญ่ๆ แบบ Galaxy Mega 6.3

สำหรับรายชื่อแอพที่รองรับฟังก์ชั่นนี้ก็ได้แก่ Contact, S memo, Polaris Office, Youtube, Maps, Gallery, Video Player (TBD), Browser, Chrome, Email, Gmail, Facebook, Message, ChatON, Gtalk, Kakaotalk

ผล benchmark