Lazada

Review Huawei Ascend P6 สมาร์ทโฟนบาง เบา รูปลักษณ์ชวนหลงใหล Part 1

1

เวลาล่วงเลยไป 1 สัปดาห์หลังจากพรีวิวชิ้นแรกของหัวเว่ยในชื่อรุ่น Ascend P6 ได้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ Mobiledista แห่งนี้ คราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนจาก Preview มาเป็น Review รุ่นแล้ว

ก่อนอื่นคงต้องบอกว่า ผมอาจย้อนความเดิมจากตอนพรีวิวมาบ้าง แต่คงไม่ยกมาทั้งกระบิ แต่จะหยิบเฉพาะในส่วนที่ควรเอามาพูดขยายความต่อเท่านั้น

ถ้าผู้อ่านท่านใดยังไม่ได้อ่านพรีวิวก่อนหน้านี้ขอเชิญที่ [Sneak Preview] ลูบไล้ Huawei Ascend P6

ซึ่งในรีวิวของ Ascend P6 ผมจะแบ่งออกเป็น 2 Part ซึ่งใน Part 2 ผมจะตามไปถามความเห็นคนที่ได้ลองสัมผัสรุ่นนี้ว่าคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง โปรดติดตามชมนะครับ

วิจารณ์การดีไซน์

2

ถึงจุดนี้คงไม่ต้องอ้อมค้อมกันแล้ว Ascend P6 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าตาเหมือนกับ iPhone 5 อย่ายิ่ง โดยเฉพาะตรงส่วนขอบรอบตัวเครื่อง ซึ่งผมเชื่อว่า ใครที่ได้เห็นรุ่นนี้ ก็คงคิดแบบเดียวกันอย่างแน่นอน

3

ส่วนด้านหลังในความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่ามันไม่แตกต่างจากตอนที่จับสมาร์ทโฟนของฝั่งโซนี่เลย

4

อย่างไรเสียก็ต้องยอมรับว่า Ascend P6 เองก็มีการดีไซน์ที่น่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะตรงส่วนของแจ็คหูฟัง ที่มาพร้อมกับเข็มจิ้มถาดซิม ผมไม่มีข้อมูลว่า สมาร์ทโฟนรุ่นไหนใช้มาบ้างนะ แต่ถือว่า เป็นไอเดียที่ดีเลยทีเดียว

บอกเล่าประสบการณ์ในการใช้งานจริง Huawei

ผมไปรับเครื่อง Ascend P6 ที่ออฟฟิศของหัวเว่ยแถวถนนวิทยุ ซึ่งพอได้เครื่องมาผมเริ่มบรรเลงการใช้งานตั้งแต่ตอนนั้นไปจนถึงออกนอกสถานที่อย่างสนามรัชมังคลากีฬาสถาน รวมไปถึงออฟฟิศอันเป็นสถานที่ทำงานประจำของผม

5

Look ‘n’ Feel ของ Ascend P6 ต้องยอมรับว่า ดีครับ การใช้งานเหมาะมือ การจัดวางเลย์เอาต์ปุ่มเปิ่มถือว่า ใช้งานได้ง่าย ไซส์ซิ่งของตัวเครื่องก็เหมาะต่อการใช้งานในทุกสภาวะ แถมด้วยตัวเครื่องยังมาพร้อมความละเอียด IPS การใช้งานบอกได้สั้นๆ เลยครับว่า ฟิน โดยเฉพาะยิ่งการดูหนังความละเอียดสูงๆ ผ่านตัวเครื่องน่าจะถูกใจกันไม่น้อย

ถ้ายังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ผมเองก็เคยรีวิวแบรนด์หัวเว่ยเหมือนกัน ในชื่อรุ่น Honor 2 ซึ่งรุ่นนั้นผมดูไฟล์วิดีโอ 720p ก็ให้ความรู้สึกที่ดี แต่นั่นยังสู้ Ascend P6 ไม่ได้ อาจเพราะตัว Ascend P6 เบากว่า บางกว่า แล้วก็มีพื้นที่ในการดูตรงหน้าจอที่มากกว่า

13

เรื่องแบตเตอรี ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายคนสนใจ ด้วยไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน ส่วนใหญ่แล้วผมมักเน้นไปที่การอ่านฟีด (จะกินแบตมากพอสมควรเพราะต้องเปิดหน้าจอตลอดเวลา) ผ่าน Google Current ใช้บริการ Twitter, Google+, Facebook ซิงค์การทำงานผ่าน Evernote รวมถึงมีการถ่ายภาพบ้างในแต่ละวัน

จุดนี้สามารถใช้งานได้ครบ 1 วันเต็มๆ แบตเตอรีเหลือก้นบ่อประมาณ 20-30% ต่อวัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่ไลฟ์สไตล์การใช้งานด้วย เพราะถ้าคุณเล่นเกมหนักๆ แบตเตอรีคงอยู่ไม่ครบวันเป็นแน่แท้ครับ

Emotion UI ที่ไม่มี App Drawer ?

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อครั้งที่ผมรีวิว Trinet Phone Cheetah ผมเคยเขียนไว้ครั้งหนึ่งแล้วว่า รุ่นนั้นหัวเว่ยเป็นผู้รับจ้างผลิตโดยใช้โมเดลของรุ่น มาเป็นต้นแบบของ Cheetah ซึ่งรุ่นนั้นมีจุดที่เหมือนกับ Ascend P6 ในประเด็นหลัก นั่นคือ จะไม่มี App Drawer มาให้

ถ้าผู้ใช้ไม่ถนัดก็ต้องโหลดตัว Launcher มาใช้เอง

แต่ด้วยความที่ผมเองก็อยากลอง เลยคิดโจทย์เล่นๆ ขึ้นมาว่า ถ้าในเมื่อหัวเว่ยไม่ให้ Launcher มา เราก็ลองใช้แบบไม่มี Launcher ดูสิ 

จากการใช้งาน Ascend P6 เป็นเวลาสัปดาห์กว่าๆ พบว่า แทบไม่มีความแตกต่างใดๆ ที่ชัดเจนมากนัก จุดนี้อาจเป็นเพราะลักษณะการใช้งานสมาร์ทโฟนของผมนั้น จะตั้งค่าหน้า Homscreen เพียงแค่ 1-3 หน้าเท่านั้น

เมื่อแอปพลิเคชันถูกดาวน์โหลดมาจาก Play Store จะมีปัญหาตรงที่แอปพลิเคชันจะไม่ทำการเรียงแอปพลิเคชันให้อัตโนมัติ เช่น คุณชอบเรียงตาม alphabet แบบนี้ ก็จะไม่มีให้มา

แต่ถ้าเป็นคนที่โหลดแอปพลิเคชัน ที่ไม่มากเกินไป ก็อาจไม่เป็นปัญหาต่อการใช้งานเลย เพราะจุดนี้เราสามารถจัดหมวดหมู่เป็น Folder สำหรับแอปพลิเคชันใช้งานบ่อยๆ แทนได้

ดังนั้นสำหรับผมแล้ว ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครแอปเยอะๆ จัดเป็นหมวดหมู่ซะ แต่ถ้าไม่ถนัดเลย Launcher เป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุดครับ

การใช้งานเชิงมัลติมีเดีย

สิ่งสำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟน มัน ‘สมาร์ท’ ก็คงหนีไม่พ้นการตอบโจทย์ด้านมัลติมีเดีย ทุกวันนี้น้อยคนครับ ที่จะไม่ใช้กล้องในการถ่ายภาพ ดูหนัง หรือฟังเพลง

16

ถ้าในแง่ของการถ่ายภาพก็คงต้องบอกว่า กล้องของ Ascend P6 ทำได้ดีในระดับที่เกินคาด อาจไม่ถึงขั้นเทียบเท่ารุ่นไฮเอนด์ แบรนด์ใหญ่ๆ ในท้องตลาด Ascend P6  มีจุดอ่อนตรงเรื่องของการเก็บสีของภาพที่ยังทำได้ไม่เนียนเท่า แต่การที่ตัวเครื่องมีโหมดบิวตี้มาให้ ถือว่า เป็นจุดขายที่น่าสนใจ ซึ่งผมได้ลองให้รุ่นน้องที่เป็นผู้หญิงได้ลองใช้งานรุ่นนี้ ส่วนใหญ่ให้คำตอบตรงกันว่า ชอบ

ดังนั้นแล้วจุดนี้หัวเว่ยน่าจะเอามาเป็นไม้ตายในการโปรโมทรุ่นนี้ได้เลย นอกจากนี้แล้วโหมด Smart และ HDR ก็ถือว่าทำได้ไม่เลว

นี่เป็นตัวอย่างของการถ่ายภาพผ่าน Ascend P6

6

 

8

7

 

9

การถ่ายวิดีโอ รุ่นนี้ถ่ายได้ในความละเอียด 1080p ผมอาจไม่ได้เทสต์ในส่วนนี้มาก เนื่องจากว่า การใช้งานหลักๆ ของผมไม่เน้นถ่ายวิดีโอสักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเคยดูพรีวิว Optimus G Pro ขอกระซิบบอกนิดนึง ตอนนั้นผมได้ใช้ Ascend P6 ในการถ่ายวิดีโอครับ

17
ต่อมาเป็นเรื่องของการฟังเพลง ภายในจะฝังแอปพลิเคชัน Google Music มาให้ โดยปกติแล้วเสียงเพลงที่ออกมาจาก Ascend P6 ก็ถือว่าโอเคแล้ว แต่ถ้าอยากได้ลักษณะแนวดนตรีก็สามารถปรับได้ที่ Setting แล้วไปที่ Sound จะมีฟังก์ชัน Dolby Digital Plus ให้มาครับ แน่นอนว่าต้องเสียบหูฟังเท่านั้น

การดูหนัง เป็นสิ่งที่ผมเคยประทับใจเมื่อครั้งตอนที่รีวิว Honor 2 ซึ่งในรุ่นนี้ ในความเห็นส่วนตัวก็ยังทำได้ดีเหมือนเดิม ด้วยหน้าจอที่คมชัดบวกกับไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงๆ ทำให้อรรถรสในการรับชมวิดีโอกลายเป็นเรื่องชิลๆ โดยปริยาย

14

และสุดท้ายที่ประทับใจในตัวเครื่อง Ascend P6 คงเป็นเรื่องการจัดโพรไฟล์การใช้งานในระหว่างนั้น ซึ่งด้วยการใช้งานสมาร์ทโฟนของผมในบางครั้ง จำเป็นต้องเข้าประชุม บรีฟงาน ทำให้อาจลืมการปิดเสียงโทรศัพท์หรือตั้งสั่นไป การมี Profile ทำให้สามารถปรับการตั้งค่าได้สบายขึ้น ถ้าผมอยู่นอกออฟฟิศตัวเครื่องก็จะมีเสียงที่ดังเป็นพิเศษทำให้ไม่พลาดในทุกการติดต่อ

ถ้าประชุมก็มี โหมด Meeting มาให้ รวมถึงเวลานอนก็จะมีโหมด Sleep มา เพื่อไม่เป็นการรบกวนการพักผ่อนของผู้ใช้ สิ่งนี้เมื่อมองลึกตรงดีเทลไปการตั้งค่าแบบนี้มีพื้นฐาน default ที่ดีอยู่แล้ว จึงถือว่าเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นแล้วใช้งานได้จริงจนน่าประทับใจ

10

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่าง Glove Mode ที่จะใช้ได้ในกรณีตอนที่เราใส่ถุงมือก็สามารถทัชสกรีนได้

ไม่ปลื้มอะไรบ้าง ?

สิ่งหนึ่งที่หัวเว่ยจำเป็นต้องปรับปรุงในมุมมองของผมนั้น หลักๆ เลย คือเรื่องของธีม ถ้าลองเทียบจากธีมที่มีมาให้เลือกทุกแบบ ในความเห็นผมมันดูหน่อมแน้มเกินไป สีสันดูเสมือนเป็นของเล่น และ UI ยังไม่สอดคล้องกับธีม จนทำให้เห็นถึงความต่างที่มากจนเกินไป

ส่วนตัวผมยังเชื่อว่า เรื่องของ UI เป็นเรื่องที่ต้องจริงจัง ต้องดูน่าใช้งาน เพราะมันคือสิ่งที่ผู้ใช้ต้องจ้องมองมันอยู่ตลอด

บทสรุป

11

ต้องบอกว่า นี่เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจของหัวเว่ยเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยรูปลักษณ์แม้จะคล้ายกับ iPhone 5 ไปบ้าง แต่ประสบการณ์ในการใข้งานตัวเครื่องถือว่า ดีเยี่ยม อีกทั้งฟีเจอร์ในการถ่ายภาพตอบโจทย์คุณผู้หญิงได้อย่างสบายๆ เลย แถมด้านความบันเทิงก็ตอบโจทย์ได้ดีในระดับน่าประทับใจ

แม้ว่าตัวเครื่องจะมีอาการหน่วงๆ ให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ผู้ใช้รำคาญใจสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามถือได้ว่า Ascend P6 เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าใช้อีกหนึ่งรุ่น แถมราคาก็พอสมเหตุสมผล 13,900 บาท

ทั้งหมดนี้คือรีวิว Ascend P6 ใน Part 1 อย่าลืมติดตามต่อใน Part 2 นะครับ :)