ถึงแม้ว่ากระแส Bada OS ในบ้านเราจะมีดราม่าให้เห็นกันบ่อยๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เปิดตัวรุ่นใหม่ ก็ยังมีกระแสตอบรับอย่างดี รุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายไปคือ Samsung Wave Y เป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Bada 2.0 ตัวแรกที่จำหน่ายในไทย
ตามมาด้วย Samsung Wave 3 มาพร้อมกับ Bada OS 2.0 ตัวที่สองที่เข้ามาทำตลาดในไทย โดยเริ่มวางจำหน่ายในงาน Thailand Mobile Expo 2012 ที่ผ่านมา สนนราคา 9,900 บาท และยังแถมฟรี Micro SD Card 8 GB มาให้อีกด้วย
Samsung Wave 3 เป็นสมาร์ทโฟนระดับของระบบปฏิบัติการ Bada OS ที่ผ่านมาทั้ง Samsung Wave และ Samsung Wave 2 ก็มีการตอบรับเป็นอบ่างดี แต่ด้วยกระแสของ Bada OS ช่วงหลังๆ ตกลงค่อนข้างเยอะ ประกอบกับการมาของ Bada 2.0 ที่ค่อนข้างจะปล่อยออกมาช้า และการแก้ไขฟีเจอร์ที่มีปัญหาในเวอร์ชั่นเดิมก็ล่าช้า และบางปัญหาผู้ใช้งานมองว่า มันคือปัญหาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที จึงทำให้เกิดกระแสที่ไม่ค่อยดีต่อภาพลักษณ์ของ Bada OS โดยเฉพาะในบ้านเรา
แต่การมาของ Bada 2.0 พอจะกอบกู้ความน่าเชื่อถือของ Bada 2.0 กลับมาได้บ้าง ตัวระบบปฏิบัติการ Bada OS 2.0 จะมาพร้อมกับอินเตอร์เฟส TouchWiz UI 4.0 แบบเดียวกันที่ใช้ในแอนดรอยด์รุ่นใหม่ๆ ของซัมซุง [Infographic] Bada 2.0 for Wave 3 และพบว่าปัญหาที่ดราม่ากันใน Social Hub และ GPS ถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วครับ
สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดบน Samsung Wave 3 และ Bada 2.0 ก็คือการทำงานของเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ Dolphin Browser 3.0 ทำให้การใช้งานนั้นลื่นไหลมากครับ แต่การโหลดหน้าเว็บยังไม่เร็วเท่าแอนดรอยด์ แต่เรื่องความลื่นไหล เวลาไหล การเลื่อนหน้าจอจากบนลงล่าง ล่างขึ้นบน ซูมเข้า ซูมออก ทำได้ดีกว่าแอนดรอยด์หลายๆ รุ่นอีก แต่น่าเสียดายตัวเบราว์เซอร์ยังไม่รองรับ Flash (หรือถ้ารับรองอาจจะไม่ลื่นแบบที่เป็นอยู่ก็ได้)
Samsung Wave 3 จุดเด่นของมันอยู่ที่ ตัวเครื่องที่เป็น Metalic Design ความทนทานดีระดับหนึ่ง อีกทั้งยังเป็น unibody อีกด้วย เป็นสมาร์ทโฟนแฟชั่นที่มีดีไซน์สวยงามเหมาะสำหรับวัยรุ่น ที่อยากได้ สมาร์ทโฟนดีไซน์เท่ๆ ไว้ใช้งาน
Samsung Wave 3 มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4 นิ้ว ใช้กระจก Corning Gorilla Glass ทนต่อรอยขีดขวนกว่ากระจกธรรมดา
[accordion title=”แกะกล่อง Samsung Wave 3″]
Samsung Wave 3 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Super AMOLED capacitive touchscreen ขนาด 4 นิ้ว WVGA ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล (233 ppi pixel density) แสดงผลได้ 16 ล้านสี ) พร้อมหน้าจอใช้กระจกแบบ Gorilla Glass Display
Samsung Wave 3 มีกล้องหน้าความละเอียด VGA มาให้ มีเซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับการแสดงผลของหน้าจอตามการเปลี่ยนทิศทางของจอให้แบบอัตโนมัติ มีเซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติเวลาคุยโทรศํพท์ ด้านล่างมีปุ่มควบคุม 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มโทร ปุ่มโฮม และปุ่มวางสาย
Samsung Wave 3 มีขนาด 125.9×64.2×9.9 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ 122 กรัม ตัวเครื่องทำด้วย aluminum unibody ด้านซ้ายขวามือมี Power ส่วนซ้ายมือเป้นปุ่มเพิ่ม ลดเสียง
ด้านล่างมีช่องเสียบ Micro USB 2.0 ไมค์สำหรับใช้สนทนา และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านบนจะเป็นลักษณะเรียบๆ
วัสดุด้านหลังจะเป็นอัลลูมิเนียม เวล่จะถอดซิมหรือใส่ SD card จะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อเลื่อนฝาหลังขึ้นไป แล้วถอดแบตเตอรี่ก่อน ถึงจะถอดซิมได้ (ความจริงถอดได้เลย แต่ถ้าเอาแบตออกก่อนจะสะดวกขึ้นเยอะ)
เมื่อเลื่อนส่วนที่เป็นฝาหลังออก
[/accordion][accordion title=”ระบบปฏิบัติการ/อินเตอร์เฟส”]
Samsung Wave 3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Bada Os เวอร์ชั่น 2.0 ใช้อินเตอร์เฟส TouchWiz UI 4.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับ TouchWiz UI บนแอนดรอยด์ แน่นอนว่าหน้าตาจะเหมือนกันกับแอนดรอยด์ ถ้าวางใกล้กัน แทบจะแยกไม่ออก ว้่มันคือ Bada หรือ Android ส่วนที่เหมือนกันมากที่สุดก็คงจะเป้นหน้า Home Screen แถมพื้นหลังยังมีเหมือนกันอีกด้วย
การลบแอพพลิเคชั่นใน Bada OS
จากรีวิว Samsung Wave Y ที่ผมเขียนไป มีคนถามมากันเยอะว่า Bada นั้นจะลบแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งไปแล้วทำไง วิธีการก็คือ เปิดหน้าแอพพลิเคชั่นขึ้นมา (มันคือคำว่า “เมนู”) จากนั้นกดค้างที่ไอคอนแอพที่เราต้องการจะลบ (กดจนกว่าจะมีเครื่องหมายกากบาท ขึ้นมาบนไอคอน) จากนั้นก็กดลบได้เลย
โปรแกรมแชทบน Bada OS
ใน Bada OS นั้นไม่มีแอพแชทที่โด่งดังอย่าง WhatsApp, Line แต่ทางซัมซุงเองก็มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับแชทของตัวเองขึ้นมา ชื่อว่า ChatOn มีทั้งใน Android, iPhone และ Bada ครับ สามารถใช้แอพพนี้ทดแทนได้ ก็คุยกับเพื่อนๆ ที่ใช้ ChatOn บน Android และ iPhone ได้เช่นกัน
Social Hub
Social Hub เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เวอร์ชั่นก่อนหน้ามีประเด็นให้ถกเถียงกัน แต่สำหรับ Social Hub ใน Bada 2.0 นั้นสามารถใช้งานได้ปกติครับ
Samsung Apps แหล่งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบน Bada OS
Samsung Apps แหล่งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบน Bada OS มีทั้งฟรีและที่ต้องซื้อ คล้ายๆ กับ Android Market และ App Store แต่ว่าจำนวนแอพพลิเคชั่นยังน้อยกว่า โดยเฉพาะเกม สำหรับคนที่มีมือถือ Bada อยู่ตอนนี้มีเกม Angry Birds สำหรับ Bada OS แล้วนะครับ
แผนที่และ GPS
GPS และ A-GPS อันนี้ก็อีกหนึ่งเรื่องที่ถกเถียงกันจนเกิดดราม่า ซึ่งใน Samsung Wave 3 นั้นสามารถใช้งานได้ครับผม จับสัญญาณได้เร็วเลยทีเดียว มีระบบนำทางด้วย แต่ต้องซื้อเพิ่ม และเสียค่า รายเดือน/รายปี ก็ว่ากันไปตามที่เราเลือกซื้อครับ
แชร์เน็ต 3G บน Bada OS
Bada OS 2.0 จะมีฟีเจอร์ Wi-Fi hotspot ที่ทำให้เราสามารถแชร์อินเตอร์เน็ต 3G เป็น Wi-Fi ให้เครื่องอื่นใช้งานได้
เว็บเบราว์เซอร์
Bada OS 2.0 ใช้เว็บเบราว์เซอร์ Dolphin Browser 3.0 เลยส่งผลทำให้ท่องเว็บไซต์นั้นลื่นไหลมากครับ แต่การโหลดหน้าเว็บยังไม่เร็วเท่าแอนดรอยด์ แต่เรื่องความลื่นไหล เวลาการเลื่อนหน้าจอจากบนลงล่าง ล่างขึ้นบน ซูมเข้า ซูมออก ทำได้ดีกว่าแอนดรอยด์หลายๆ รุ่นอีก แต่น่าเสียดายตัวเบราว์เซอร์ยังไม่รองรับ Flash (หรือถ้ารับรองอาจจะไม่ลื่นแบบที่เป็นอยู่ก็ได้)
[/accordion][accordion title=”กล้องและวีดีโอ”]
ตอนกลางวัน
ตอนกลางคืน
ถ่ายแบบเปิดแฟลช
ตัวอย่างวีดีโอตอนกลางวัน
ตัวอย่างวีดีโอตอนกลางคืน
[/accordion][accordion title=”จุดเด่น/ข้อสังเกต”]
จุดเด่น
- ตัวเครื่องเป็น aluminum unibody แข็งแรงทนทาน (ระดับนึง)
- งานประกอบดี !!
- เบราว์เซอร์ลื่นกว่าแอนดรอยด์หลายๆ รุ่น
- ถ่ายรูปเวลาที่เปิดแฟลชถือว่าสวยเลยทีเดียว ควบคุมแสงแฟลชได้ดี
- หน้าจอเป็น Super AMOLED สีสวยงามสมคำล่ำลือ
- ใช้กระจกแบบ Gorilla Glass Display ลดการเกิดรอยขีดขวนที่หน้าจอ
- เป็น Metalic Design ความทนทานดีระดับหนึ่ง
- แบตเตอรี่ 1500 mAh ค่อนข้างอึด
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Bada OS 2.0
จุดสังเกต
- แอพพลิเคชั่นที่รองรับยังน้อย หากเทียบกับแอนดรอยด์ และ iOS
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องเหลือให้ใช้ 1 GB ลงเกมกับแอพ ได้ไม่เยอะ
- เบราว์เซอร์ไม่รองรับ Flash Player
[/accordion][accordion title=”แกลเลอรี่”]
[/accordion][accordion title=”สเปค Samsung Wave 3″]
- ระบบปฏิบัติการ Bada 2.0
- ตัวเครื่องขนาด 125.9 x 64.2 x 9.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 122 กรัม
- ซีพียูความเร็ว 1.4 GHz
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4 นิ้วความละเอียด 4 นิ้ว
- หน้าจอใช้กระจก Corning Gorilla Glass
- กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มี Auto focus และ LED Flash ถ่ายวีด๊ดอความละเอียด 720p
- กล้องหน้าความละเอียด VGA
- พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่อง 4 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32 GB
- แบตเตอรี่ Li-Ion 1500 mAh
- รองรับ 3G ความถี่ 900/2100 MHz ความเร็วสูงสุด 14.4 Mbps
- microUSB 2.0
- WiFi 802.11 b/g/n
- Bluetooth 3.0
- A-GPS
- มีเซ็นเซอร์ Accelerometer, proximity, compass
- Wi-Fi hotspot
- Wi-Fi Direct
[/accordion]
ขอขอบคุณ
ซัมซุง ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อเครื่องในการทดสอบ